วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2561
อร่อยได้คุณค่า…สาหร่ายทะเล
สาหร่ายทะเล จัดเป็นพืชผักที่ให้พลังงานต่ำ ย่อยง่าย แต่มีคุณค่าอาหารสูง มีหลายชนิด เช่น สาหร่ายโนริ สาหร่ายคอมบุ และสาหร่ายวาคะเมะ จะมีสารอาหารมากเป็นพิเศษ สารอาหารที่มีในสาหร่ายทะเล คือ โปรตีนซึ่งมีมากกว่าในเนื้อสัตว์ มีแคลเซียมมากกว่านมถึง 14 เท่า ธาตุเหล็กมีมากกว่าเนื้อสัตว์ 3-8 เท่า มีไอโอดีนมากกว่าในอาหารทะเล และยังมีวิตามินเอ วิตามินซี ไทอามีน ไรโบฟลาวิน วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 และไนอาซีนมากกว่าในผัก ผลไม้
มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคกระดูกผุ ชำระล้างหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต รักษาโรคท้องผูก สมานแผลในกระเพาะอาหาร กระตุ้นภูมิคุ้มกันโรค บรรเทาไขข้ออักเสบ เป็นยาระงับประสาท ช่วยกำจัดแบคทีเรียบางชนิดที่ก่อสารมะเร็ง
ที่สำคัญสาหร่ายทะเล เป็นอาหารและขนมที่ยอดนิยมสำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ และคุณผู้หญิงที่ห่วงใยดูแลรูปร่าง เพราะเป็นอาหารที่มี ไขมัน แคลอรี่ที่ต่ำ ให้โปรตีนสูง ช่วยบำรุงสุขภาพร่างกาย และผิวพรรณ ซึ่งในปัจจุบัน สาหร่าย ยังเป็นส่วนประกอบที่ช่วย เพิ่มรสชาติให้กับหลายเมนูทั้งอาหารไทย และอาหารญี่ปุ่น และยังเป็นเครื่องปรุงสำคัญของอาหารแบบแมคโครไบโอติกส์อีกด้วย สาหร่ายทะเลส่วนใหญ่อุดมด้วยคุณค่าดังต่อไปนี้
1. ทองแดงและเหล็ก มีประโยชน์ต่อเลือด
2. แมกนีเซียม ช่วยให้กล้ามเนื้อและประสาททำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
3. โพแทศเซียม ช่วยควบคุมเซลล์รวมถึงความสมดุลของน้ำในร่างกาย
4. แคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูก
5. ไอโอดีน จำเป็นต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ ต่อมนี้ผลิตฮอร์โมนควบคุมระบบการเผาผลาญ อาหารในร่างกายให้เป็นปรกติ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกาย ถ้าขาดไอโอดีน ต่อมไทรอยด์จะบวมโต ทำให้เป็นโรคคอพอกได้
6. ใยอาหาร ช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระทำให้ท้องไม่ผูกและเร่งการขับถ่ายสารพิษต่างๆ ในทางเดินอาหาร
7. วิตามินบีและเบต้าแคโรทีน ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของสาหร่ายที่นำมาปรุงอาหาร
8. สังกะสี ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
แม้ว่าสาหร่ายจะมีประโยชน์อันหลากหลาย แต่หากทานมากเกินไปก็มีโทษเช่นกัน เพราะตามปกติสาหร่ายอบแห้งธรรมดาที่ยังไม่นำมาปรุงอาหารก็มี รสเค็มโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อนำมาปรุงรสโดยการอบซอส ปริมาณของโซเดียมในสาหร่ายจึงมีมากขึ้น ทำให้ร่างกายได้รับไอโอดีน มากเกินความต้องการ ซึ่งจะมีผลทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ มีอาการกระวนกระวาย ใจสั่น และหิว ตลอดเวลา
นอกจากนี้ สาหร่ายทะเลยังมีสารจำพวกนิวคลีอิก ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นกรดยูริกได้ แล้วถ้ากินมากๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้เป็นโรคเกาต์ได้ด้วย ขณะเดียวกันผู้ที่เป็นโรคไตหรือความดันเลือดสูง ก็จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ในการกินสาหร่ายที่มีเกลือโซเดียมสูง
วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2561
เกรปฟรุต ตัวช่วยลดน้ำหนัก
เกรปฟรุต เป็นผลไม้ยอดนิยมของคนอเมริกันที่อยากหุ่นสวยในยุคก่อนสงครามโลก และด้วยคำพูดปากต่อปาก จึงได้รับความนิยมมาถึงยุคปัจจุบัน
นักโภชนาการของวิทยาลัยเซนต์แมรีส์โดมินิกัน ในอเมริกาบอกว่า หลายคนเชื่อว่าหากินเกรปฟรุตร่วมกับอาหารที่มีโปรตีนสูง จะช่วยกระตุ้นให้เกิดกลไกเผลผลาญไขมันในร่างกายะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว
แม้ยังไม่มีการพิสูจน์แน่ชัดถึงข้อเท็จจริงนี้ แต่มื่อไม่นานมานี้มีการศึกษาว่าเกรปฟรุตสดและผลิตภัณฑ์จากเกรปฟรุตต่อการลดน้ำหนักในคนอ้วน ได้ผลดี เมื่อให้คนทดลองทานเกรปฟรุตสดครึ่งผลต่อเนื่องกัน 12 สัปดาห์ จะลดน้ำหนักได้มากที่สุดเมื่อเทียลกับกลุ่มที่ทานน้ำเกรปฟรุตและเกรปฟรุตในรูปแคปซูลเป็นประจำ
นักกำหนดอาหารวิเคราะห์ว่า เป็นเพราะเกรปฟรุตให้พลังงานต่ำ มีใยอาหารสูง เมื่อกินก่อนอาหารจึงช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วและกินอาหารลดลง ส่งผลให้น้ำหนักตัวลดลงตามมา โดยคุณสมบัตินี้สามารถพบได้ในผักแลผลไม้ชนิดอื่นเช่นกัน
ดังนั้นจึงมีการสรุปหลังการทดองว่า ถ้าต้องการกินเกรปฟรุตเพื่อลดน้ำหนัก ก็ให้กินครึ่งผลหรือดื่มน้ำคั้น 1 แก้ว ก่อนอาหาร เพื่อช่วยให้รู้สึกอิ่ม ทั้งนี้เพื่อสุขภาพที่ดีควรผลัดเปลี่ยนเป็นผลไม้ชนิดอื่นที่รสไม่หวานเพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุครบหลากหลาย ร่วมกับควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ และออกกำลังกายเพื่อเพิ่มระบบเผาผลาญของร่างกายด้วย
ใครที่กลัวหาเกรปฟรุตไม่ได้ สมัยนี้มีจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าแล้วเช่นกันไม่ได้หายากอย่างสมัยก่อน แต่ถ้ายากหนักก็ลองหาผลไม้ไทยตัวอื่นมาทดแทนก็มีไม่น้อยเช่นกัน
วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2561
มะตูม: ยาอายุวัฒนะ
มะตูม เป็นทั้งผลไม้และสมุนไพรที่มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย ถือเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นตัวแทนของพระอิศวร ส่วนต่างๆ ของมะตูมมีสรรพคุณทางยา ใช้แก้อาการต่างๆ อาทิ
- ใบ มีรสปร่า ขื่น มัน ใช้บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร แก้ไข้ แก้หวัด แก้กระหายน้ำ หลอดลมอักเสบ ตาเจ็บ เยื่อตาอักเสบ แก้เสมหะ มูกเลือด เลือดเป็นพิษ แก้หืด แก้บวม แก้ลงท้อง และฝีเปื่อยพัง
- ดอก ใช้แก้บวม แก้ตกเลือด ขับพยาธิ แก้ลงท้อง และฝีเปื่อยพัง
- ผลอ่อน มีรสฝาด ร้อน ปร่า ขื่น นำมาหั่นแล้วผึ่งให้แห้ง นำมาบดให้เป็นผง หรือต้มรับประทาน ช่วยเจริญอาหาร บำรุงกำลัง แก้ปวดศีรษะ ตาลาย ลดความดันโลหิตสูง ขับลมในลำไส้ แก้ธาตุพิการ ท้องเสีย แก้บิด แก้โรคกระเพาะอาหาร
- ผลแก่ มีรสหวาน เย็น นำมาต้มดื่มหรือเอาเนื้อรับประทาน ช่วยย่อยอาหาร บำรุงธาตุไฟ แก้ไข้ แก้ลม ช่วยเจริญอาหาร แก้ไอ ขับเสมหะ ไล่ลมในลำไส้ แก้ลมเสียดแทงในท้อง แก้มูกเลือด พิษจากฝี และหืดหอบ
- แก่น แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง
- หนาม ใช้ แก้ไข้พิษ ไข้กาฬ ช่วยลดความร้อน และแก้พิษจากฝีต่างๆ
- ราก มีรสฝาดปร่า ซ่า ขื่นเล็กน้อย ใช้รักษาน้ำดี แก้หืดหอบ ไอ แก้ไข้ตัวร้อน แก้ลมอัดแน่น และช่วยขับปัสสาวะ
อากาศร้อนๆ อย่างนี้ ได้น้ำมะตูมเย็นๆ สักแก้วก็คงจะดีนะ เพราะการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงในช่วงหน้าร้อนเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจให้มาก โดยเน้นที่การกินอาหารให้ได้สัดส่วนของผักและน้ำดื่มสมุนไพรหรือน้ำผลไม้ให้มากกว่าเดิม ก็จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายได้มากทีเดียว ซึ่งน้ำมะตูมนั้น นอกจากจะดื่มเพื่อคลายร้อนได้แล้ว ว่ากันว่ายังเป็น “ยาอายุวัฒนะ” ด้วย
คนส่วนใหญ่นิยมทานผลสุก เพราะเป็นผลไม้รสชาติอร่อย อาจจะนำมาฝานเป็นแผ่นบางๆ ตากแห้ง ใช้ต้มทำน้ำมะตูมหรือทำชา นอกจากนี้ สารสกัดจากใบมะตูมยังช่วยทำให้เนื้อตับและไตที่ผิดปกติเนื่องจากภาวะของเบาหวานสามารถกลับคืนสู่ภาวะใกล้เคียงปกติได้ รวมทั้งช่วยในการฟื้นฟูตับอ่อนที่ถูกทำลาย
น้ำมะตูม มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยบำรุงกำลัง ช่วยให้เจริญอาหาร หากนำผลมะตูมสัก 2 ผลมาทุบให้แตก ผสมกับกำลังเจ็ดช้างสาร ดองด้วยเหล้าขาว 40 ดีกรี ดื่มวันละ 3 เวลาก่อนอาหารเช้า เย็น และก่อนนอน จัดเป็นยาอายุวัฒนะและบำรุงกำลังขนานเอก
มะตูมมีหลายพันธุ์ แต่พันธุ์ที่มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงกำลัง ช่วยขับลม และช่วยให้เจริญอาหารคือ “มะตูมนิ่ม” ถือเป็นหนึ่งในตัวยาตำรับยาอายุวัฒนะที่ชื่อ “ลูกแปลกแม่” ซึ่งประกอบด้วยตัวยา 3 ชนิด คือ มะตูมนิ่ม กล้วยน้ำไท และพริกไทย นำมาบดคลุกเคล้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วทำเป็นแผ่นนำไปตากแห้ง จากนั้นบดให้เป็นผงผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอน รับประทานเป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้ดี
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2561
สะเดามหัศจรรย์
หน้าหนาวนี้ ถ้าพูดถึงหนึ่งในอาหารยอดฮิตที่คุณแม่บ้านหลายๆบ้าน หรืออาจจะเป็นคุณเองต้องนึกถึงอาหารชนิดนี้เป็นอันดับต้นๆ นั่นคือ สะเดาน้ำปลาหวานกับปลาดุกย่าง เอกลักษณ์ของสะเดานั้น คงหนีไม่พ้นความขมสุดๆของมันนั่นเอง ซึ่งความขมของสะเดานั้นเองจึงทำให้บางคนรู้สึกไม่ชอบ และไม่ทานมันเลย แต่คุณจะรู้ไหมค่ะ มีอะไรเอ่ย แฝงมากับความขมของสะเดา สะเดานั้นมีสองประเภทด้วยกัน มีทั้งสะเดาขมและสะเดามัน ทั้งสองอย่างมีประโยชน์เหมือนกันเพียงแต่ว่าสะเดามันนั้นมีความขมน้อยกว่าสะเดาขมทั่วไปค่ะ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อทานกับน้ำปลาหวานและปลาดุกย่าง อร่อยอย่าบอกใครเลยนะคะ
แน่นอนค่ะจากที่กล่าวมาทางข้างต้น คือประโยชน์จากความขมของมันมากมายซะจริงๆ เรียกได้ว่าคนโบราณนั้นขนานนามเจ้าสะเดาว่าเป็นพืชมหัศจรรย์กันเลยทีเดียว เพราะว่าทุกส่วนของเจ้าต้นสะเดาเนี่ยมีประโยชน์มากๆเลยเพราะว่าถ้าเราไม่นำมันมาทำเป็นอาหารยังสามารถนำมันมาทำเป็นยารักษาโรคได้มากมาย เรามาเรียงกันทีละส่วนกันเลยดีกว่าค่ะ เริ่มจาก
1. ราก เมื่อคุณมีอาการไม่สบาย มีไข้ รากของมันมีสรรพคุณสามารถยาแก้ไข้ได้ และทำให้เราอาเจียนอีกด้วย
2. ผล ส่วนผลของสะเดานั้นเหมาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นโรคพยาธิ เพราะผลของสะเดาจะเป็นยาถ่ายพยาธิชั้นดีและแก้โรคริดสีดวงทวารได้อีกด้วย
3. ก้าน ก้านของเจ้าสะเดานั้นสามารถใช้แก้ไข้เหมือนกับรากของสะเดาค่ะ และช่วยรักษาอาการท้องร่วง
4. แก่น มาถึงส่วนของแก่นของสะเดาใช้แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน และแก้ไข้ได้อีกเช่นกันค่ะ แถมในส่วนของที่เป็นโรคเลือด แก่นของสะเดายังช่วยบำรุงเลือดอีกด้วย
เป็นไงคะนอกจากอาหารสะเดาน้ำปลาหวานกับปลาดุกย่างแล้ว เรียกได้ว่าแต่ละส่วนของสะเดานั้น ยังนำมาเป็นยาได้อีกมากมาย นอกจากนี้ ความมหัศจรรย์จากความขมของมันไม่จบเท่านั้นค่ะ เพราะภูมิปัญญาชาวบ้านที่บอกต่อๆกันมาว่าสะเดานั้น สามารถนำสะเดามาคั้นน้ำและนำน้ำที่ได้จากการคั้นของสะเดานำไปรดบริเวณต้นพืชของเรา เท่านี้มันก็สามารถเป็นยาฆ่าแมลงได้อีกด้วย ซึ่งแน่นอน ว่ามันไม่เป็นภัยต่อโลกของเราแน่นอน ทิ้งท้ายไว้นะค่ะ ว่า โบราณท่านว่า “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” เนี่ย มันเรื่องจริงๆนะคะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)