วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2561

สะเดามหัศจรรย์


หน้าหนาวนี้ ถ้าพูดถึงหนึ่งในอาหารยอดฮิตที่คุณแม่บ้านหลายๆบ้าน หรืออาจจะเป็นคุณเองต้องนึกถึงอาหารชนิดนี้เป็นอันดับต้นๆ นั่นคือ สะเดาน้ำปลาหวานกับปลาดุกย่าง เอกลักษณ์ของสะเดานั้น คงหนีไม่พ้นความขมสุดๆของมันนั่นเอง ซึ่งความขมของสะเดานั้นเองจึงทำให้บางคนรู้สึกไม่ชอบ และไม่ทานมันเลย แต่คุณจะรู้ไหมค่ะ มีอะไรเอ่ย แฝงมากับความขมของสะเดา สะเดานั้นมีสองประเภทด้วยกัน มีทั้งสะเดาขมและสะเดามัน ทั้งสองอย่างมีประโยชน์เหมือนกันเพียงแต่ว่าสะเดามันนั้นมีความขมน้อยกว่าสะเดาขมทั่วไปค่ะ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อทานกับน้ำปลาหวานและปลาดุกย่าง อร่อยอย่าบอกใครเลยนะคะ

แน่นอนค่ะจากที่กล่าวมาทางข้างต้น คือประโยชน์จากความขมของมันมากมายซะจริงๆ เรียกได้ว่าคนโบราณนั้นขนานนามเจ้าสะเดาว่าเป็นพืชมหัศจรรย์กันเลยทีเดียว เพราะว่าทุกส่วนของเจ้าต้นสะเดาเนี่ยมีประโยชน์มากๆเลยเพราะว่าถ้าเราไม่นำมันมาทำเป็นอาหารยังสามารถนำมันมาทำเป็นยารักษาโรคได้มากมาย เรามาเรียงกันทีละส่วนกันเลยดีกว่าค่ะ เริ่มจาก

1. ราก เมื่อคุณมีอาการไม่สบาย มีไข้ รากของมันมีสรรพคุณสามารถยาแก้ไข้ได้ และทำให้เราอาเจียนอีกด้วย

2. ผล ส่วนผลของสะเดานั้นเหมาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นโรคพยาธิ เพราะผลของสะเดาจะเป็นยาถ่ายพยาธิชั้นดีและแก้โรคริดสีดวงทวารได้อีกด้วย

3. ก้าน ก้านของเจ้าสะเดานั้นสามารถใช้แก้ไข้เหมือนกับรากของสะเดาค่ะ และช่วยรักษาอาการท้องร่วง

4. แก่น มาถึงส่วนของแก่นของสะเดาใช้แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน และแก้ไข้ได้อีกเช่นกันค่ะ แถมในส่วนของที่เป็นโรคเลือด แก่นของสะเดายังช่วยบำรุงเลือดอีกด้วย

เป็นไงคะนอกจากอาหารสะเดาน้ำปลาหวานกับปลาดุกย่างแล้ว เรียกได้ว่าแต่ละส่วนของสะเดานั้น ยังนำมาเป็นยาได้อีกมากมาย นอกจากนี้ ความมหัศจรรย์จากความขมของมันไม่จบเท่านั้นค่ะ เพราะภูมิปัญญาชาวบ้านที่บอกต่อๆกันมาว่าสะเดานั้น สามารถนำสะเดามาคั้นน้ำและนำน้ำที่ได้จากการคั้นของสะเดานำไปรดบริเวณต้นพืชของเรา เท่านี้มันก็สามารถเป็นยาฆ่าแมลงได้อีกด้วย ซึ่งแน่นอน ว่ามันไม่เป็นภัยต่อโลกของเราแน่นอน ทิ้งท้ายไว้นะค่ะ ว่า โบราณท่านว่า “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” เนี่ย มันเรื่องจริงๆนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น