วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ถั่วฝักยาว ประโยชน์ไม่ธรรมดา สรรพคุณทางยาไม่น้อยหน้าใคร !


ถั่วฝักยาว ภาษาอังกฤษคือ yardlong bean มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Vigna unguiculata subsp. เป็นพืชล้มลุกตระกูลเดียวกับพวกถั่วต่าง ๆ อย่าง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วแปบ คืออยู่ในวงศ์ Fubaceae มีลักษณะพิเศษที่ทำให้แตกต่างจากถั่วชนิดอื่นอย่างชัดเจน ด้วยฝักสีเขียวที่ยาวสะดุดตา โดยคนไทยเรานิยมนำไปประกอบอาหารหลากหลายประเภท ทั้ง ผัด แกง ตำแทนมะละกอ และใช้เป็นส่วนผสมของอาหารอื่น ๆ แต่ที่นิยมที่สุดคือนำมากินสด ๆ หรือเป็นเครื่องเคียงคู่กับน้ำพริกและอาหารรสจัด เพราะถั่วฝักยาวจะช่วยลดความเข้มข้นของอาหารลงได้

ถั่วฝักยาว มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์แบบไหน ?
ต้น :ถั่วฝักยาวเป็นพืชล้มลุก เลื้อยไปตามไม้ค้ำ มีข้อปล้อง กิ่ง ก้าน และรากที่ไม่ลึกมาก ทั้งรากแก้วและรากแขนง
ใบ :ใบของถั่วฝักยาว เป็นใบประกอบที่มีใบย่อยประมาณ 3 ใบ สลับกันอยู่บนต้น มีขนาดเล็ก รูปไข่ ปลายแหลม สีเขียว โดยที่โคนใบจะมีหูใบเส้นเล็ก ๆ อยู่ 2 เส้น
ผล :ผลของถั่วฝักยาว จะออกเป็นฝักสีเขียว ผิวขรุขระ ยาวประมาณ 20-60 เซนติเมตร ซึ่งเป็นส่วนที่เราทำมาประกอบอาหารกันนั่นเอง
เมล็ด :เมล็ดถั่วฝักยาวจะมีลักษณะคล้ายไต กลมเล็กน้อย และมีหลายสี เช่น ขาว ดำ น้ำตาล และสีสลับ
ดอก :ดอกของถั่วฝักยาวออกเป็นช่อ มีดอกย่อยประมาณ 2-3 ดอก โดยจะบานตอนเช้า และหุบตอนบ่าย

ถั่วฝักยาว กับสรรพคุณทางยาดี ๆ
ราก :รักษาโรคหนองในและโรคบิด ทำให้เจริญอาหาร และช่วยบำรุงม้ามได้
ฝักสด :ระงับอาการปวด หรือตำคั้นเอาน้ำมาดื่มแก้ท้องอืดแน่น เรอเปรี้ยว เนื่องจากกินมากไป
เปลือกฝัก :ลดอาการปวดบวม และช่วยรักษาแผลที่เต้านม
ใบ :ใช้ต้มน้ำกิน แก้ปัสสาวะพิการ รักษาหนองใน และปัสสาวะเป็นหนองได้
เมล็ด :แก้กระหายน้ำ อาการอาเจียน โรคบิด ปัสสาวะกะปริบกะปรอย และตกขาว อีกทั้งยังช่วยบำรุงม้ามและไตด้วย


ถั่วฝักยาวกับประโยชน์มหาศาล
1. นำมาประกอบอาหาร
แน่นอนว่าประโยชน์อันดับหนึ่งของถั่วฝักยาวก็คือนำมาทำเป็นอาหาร เช่น ตำ ผัด แกง ทำของหวาน และลวกเป็นเครื่องเคียง เพราะเป็นผักที่ฉ่ำน้ำ กรอบ มีรสหวานมัน และไม่เหม็นเขียว ยิ่งถ้าทานคู่กับอาหารรสจัดจะช่วยลดความเข้มข้นของอาหารนั้น ๆ ให้กลมกล่อมพอดีได้ นอกจากนี้ ยังมีการนำถั่วฝักยาวไปบรรจุกระป๋องหรือแช่แข็งเพื่อส่งออกไปขายยังต่างประเทศ และนำไปใช้เป็นพืชสมุนไพรรักษาโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย

2. ดูแลผิวพรรณ
ในถั่วฝักยาวมีวิตามินซีเป็นส่วนประกอบอยู่ค่อนข้างมาก และอย่างที่เรารู้กันดีว่าวิตามินซีเป็นสารสำคัญที่ช่วยดูแลผิว ทั้งลดริ้วรอย รอยแดง ยืดอายุผิว และช่วยบำรุงไม่ให้ผิวแห้ง อีกทั้งยังเป็นสารที่สำคัญต่อผิวหนัง หลอดเลือด และเส้นเอ็นในร่างกายเรา แถมถ้าเรากินอาหารที่มีวิตามินซีสูงบ่อย ๆ สามารถช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ด้วยนะ

3. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ใคร ๆ ก็อยากมีภูมิคุ้มกันสูงเพื่อจะได้ป้องกันการเจ็บไข้ได้ป่วยใช่ไหมคะ งั้นเราขอแนะนำถั่วฝักยาวเป็นทางเลือกในการช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน เพราะการทานถั่วฝักยาวจะไปช่วยเสริมการทำงานของฮีโมโกลบิน ทำให้มีออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ในร่างกายได้ทั่วถึง ส่งผลให้เราไม่อ่อนเพลีย แถมในถั่วฝักยาวยังมีวิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ป้องกันโรคหวัด

4. ช่วยให้นอนหลับสนิท
ถ้าร่างกายเราขาดแมกนีเซียม อาจทำให้เรามีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการนอนได้ เพราะแมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุจำเป็นที่ช่วยบรรเทาความเครียดและทำให้สมองผ่อนคลาย หากขาดไปก็ทำให้เราวิตกกังวล เครียด จนนอนไม่หลับได้ง่าย ฉะนั้นการทานถั่วฝักยาวซึ่งมีแมกนีเซียมสูง จึงช่วยให้สมองผ่อนคลายมากขึ้น และเครียดน้อยลง ซึ่งทำให้เรานอนหลับได้สนิทขึ้นค่ะ

5. บำรุงสายตา
วิตามินเอและวิตามินบี 1 สามารถบำรุงสายตา ป้องกันไม่ให้ประสาทตาเสื่อม ป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น โรคต้อกระจก ต้อหิน และยังช่วยให้สายตาเรามองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งถ้าใครที่ยังไม่มีปัญหาสายตา เราขอแนะนำให้กินถั่วฝักยาวหรืออาหารที่มีวิตามินเอและวิตามินบี 1 เยอะ ๆ เพื่อช่วยบำรุงสายตาและป้องกันโรคเกี่ยวกับตาไว้ก่อนเลย หรือถ้าใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับสายตาแล้ว ก็สามารถทานถั่วฝักยาว เพื่อช่วยบำรุงให้สายตากลับมาเป็นปกติได้นะคะ

6. ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง
เพราะว่าในถั่วฝักยาวมีแคลเซียม ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัสอยู่เยอะ เมื่อธาตุทั้งสามทำงานรวมกันก็ช่วยทำให้เส้นผม ฟัน และกระดูกของเราแข็งแรงขึ้นได้ ลดความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุนสบาย ๆ เลยค่ะ

7. ป้องกันเบาหวาน
ถั่วฝักยาวมีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลที่ดีต่อสุขภาพ แถมยังมีไฟเบอร์เยอะ ซึ่งช่วยให้น้ำตาลย่อยช้าลง จึงสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี และช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้

8. บำรุงครรภ์
มีการศึกษาพบว่าการทานอาหารที่ประกอบไปด้วยโฟเลต หรือวิตามินบี 9 เยอะ ๆ สามารถลดความเสี่ยงภาวะหลอดประสาทไม่ปิด (neural tube defect, NTD) ได้ถึง 26% เลยทีเดียว ซึ่งภาวะหลอดประสาทไม่ปิดนี้เป็นอันตรายกับลูกในท้องมากเลยนะคะ เพราะอาจทำให้เด็กพิการตั้งแต่กำเนิด ดั้งนั้นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือมีแผนจะตั้งครรภ์ควรรับประทานถั่วฝักยาวและอาหารที่มีโฟเลตบ่อย ๆ เพื่อช่วยให้ลูกน้อยลดความเสี่ยงโรคนี้และให้ได้รับสารอาหารอื่น ๆ เพื่อช่วยบำรุงครรภ์ค่ะ

9. ลดความเสี่ยงเป็นเกาต์
อาการเท้าบวมของโรคเกาต์นั้นมีสาเหตุมาจากการสะสมของกรดยูริกในข้อเท้าที่มากเกินไป ซึ่งจริง ๆ แล้วเราสามารถลดกรดยูริกและลดความเสี่ยงโรคเกาต์ได้ง่าย ๆ เพียงแค่ทานวิตามินซีให้มากขึ้น อ้างอิงจากการศึกษาที่พบว่าผู้ที่ทานวิตามินซีประมาณ 1,000-1,499 มิลลิกรัมเป็นประจำ สามารถลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเกาต์ได้ถึง 31% ฉะนั้นแค่เราทานผัก-ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ๆ อย่างเช่น ถั่วฝักยาวก็สามารถป้องกันโรคเกาต์ได้ง่าย ๆ แล้ว

10. มีสารต้านอนุมูลอิสระ
ในเมื่อถั่วฝักยาวเป็นผักที่มีวิตามินซีสูง จึงมีสารต้านอนุมูลอิสระมากไปด้วยค่ะ เพราะวิตามินซีก็คือสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ซึ่งจะช่วยปกป้องเซลล์ร่างกายไม่ให้ถูกสารพิษ สารเคมี อนุมูลอิสระมาทำลาย พร้อมกับช่วยลดอาการอักเสบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกาย

11. บำรุงหัวใจให้แข็งแรง
ประโยชน์ดี ๆ ของถั่วฝักยาวยังไม่หมดค่ะ เพราะนอกจากสิ่งดี ๆ ข้างบนแล้ว ถั่วฝักยาวยังสามารถลดปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจได้ด้วย เพราะในถั่วฝักยาวอุดมไปสารอาหารมากมายที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และลดความเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน และบำรุงหัวใจให้แข็งแรง ห่างไกลโรคหัวใจแบบสบาย ๆ เลย

12. นำมาทำเป็นอาหารสัตว์
นอกเหนือจากประโยชน์ต่าง ๆ ข้างบนแล้ว ถั่วฝักยาวยังนำมาทำเป็นปุ๋ยพืช เพื่อบำรุงดินและควบคุมวัชพืช แถมยังนำเมล็ด ยอด และลำต้นมาทำเป็นอาหารสัตว์ได้ด้วย เพราะถั่วฝักยาวเป็นแหล่งที่มีโปรตีนสูงนั่นเองค่ะ


กินถั่วฝักยาว อ้วนไหม ช่วยลดน้ำหนักได้หรือเปล่า ?
ไม่ต้องกังวลไปเลยค่ะ เพราะถั่วฝักยาวเป็นผักที่มีโปรตีนเยอะแต่ไขมันน้อย แถมยังมีแคลเซียมสูง ฟอสฟอรัสสูง ไฟเบอร์ก็สูงอีกต่างหาก จึงช่วยดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ได้ดี ทำให้เราอิ่มเร็ว อิ่มนาน และเผาผลาญได้ง่ายขึ้น พร้อมกับช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีเยี่ยม ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงบอกได้ว่า การทานถั่วฝักยาวในปริมาณที่เหมาะสมนอกจากจะไม่ทำให้อ้วนแล้ว ยังช่วยให้เราลดน้ำหนักได้สบาย ๆ อีกนะ


วันนี้เลยมาแนะนำเมนูที่ทำจากถั่วฝักยาว นั่นก็คือตำถั่วหมูกรอบ เป็นอาหารอีสานยอดนิยมวันนี้ขอนำเสนอ 😋 อาหารง่ายๆเป็นเมนูตำ ใช้ถั่วฝักยาว เป็นวัตถุดิบหลัก คู่กับหมูทอดกรอบๆ ตำถั่วหมูกรอบ เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ ตำถั่วที่มีรสอร่อยจัดจ้าน เผ็ดนัว และหมูกรอบอร่อยๆ หนังกรอบ เนื้อนุ่ม ทานกับข้าวเหนียวร้อนๆแซ่บถึงไหนถึงกัน 🍽🍻 หรืออยากทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพสามารถมาทานได้ที่ร้านมายโฮมได้นะคะ รับรองว่าอาหารอร่อยทุกอย่าง สนใจหรือสบถามได้ที่ร้าน myhome ถนนแม่ชี ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โทรสอบถามหรือจองโต๊ะได้ที่ 087-330-0333,045-311333 เปิดบริการทุกวัน 11.00-22.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ประโยชน์จากการรับประทานอาหารทะเลสดๆ


ประโยชน์ที่ได้รับจากการไปเที่ยวทะเลและรับประทานอาหารทะเลนอกจากจะเพลิดเพลินมีความสุขกับกิจกรรมต่างๆบนชายหาดแล้ว ยังได้คุณค่าทางอาหารมากมายจากอาหารทะเลสดๆอีกด้วย


ประโยชน์จากกุ้ง แม้ว่าหลายคนจะคิดว่ากุ้งมี โคเลสเตอรอลสูง แต่จริงๆแล้ว โคเลสเตอรอลที่พบในกุ้งนั้นเป็นโคเรสเตอรอลชนิดที่ดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย และกุ้งยังอุดมไปด้วย แร่ธาตุ โปรตีน และ คาร์โบไฮเดรต ซึ่งช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สดชื่น กระปรี้กระเปร่า และแคลเซียมที่อยู่ในเปลือกกุ้งยังสามารถช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงอีกด้วย


ประโยชน์จากเนื้อปลา ในเนื้อปลาจะอุดมไปด้วยโปรตีน และกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยมีส่วนช่วยเสริมภูมิต้านทานโรคให้แก่ร่างกาย ทำให้ไม่อ่อนเพลียง่าย ไม่แก่ก่อนวัย ผิวพรรณสดใสมีน้ำมีนวลอยู่เสมอ และเนื้อปลายังย่อยง่ายไขมันน้อยจึงทำให้ไม่อ้วน นอกจากนี้ในปลาทะเลยังมีสาร ดีเอชเอ (DHA) สูง ซึ่งสารนี้มีความจำเป็นต่อการพัฒนาระบบของสมอง ทำให้การทำงานระบบของสมองดีอีกด้วย


ประโยชน์จากปลาหมึก ในปลาหมึกจะมีกรดไขมัน กลุ่มโอเมก้า 3 อยู่สูงมาก แม้ว่าปลาหมึกจะมีโคเลสเตอรอลสูง แต่โอเมก้า 3 ที่มีอยู่ในปลาหมึกนั้นจะไปช่วยต่อต้านไม่ให้ร่างกายมีโคเลสเตอรอลสูงขึ้นได้ และยังพบว่า คลอเลสเตอรอลที่มีอยู่ในปลาหมึกนั้นจะช่วยให้ผิวหนังแต่งตึง ใบหน้าไม่เหี่ยวย่นอีกด้วย


ประโยชน์จากปูและหอย ในเนื้อปูและหอยจะมี free amino acid 10 กว่าชนิด ที่สำคัญ ได้แก่ กรดกลูตามิก, Glycine, Proline, Histidine, Arginine เป็นต้น นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วย วิตามินเอ บีหนึ่ง บีสอง บีสาม ซี และดี ที่สำคัญในหอยนางรมยังมีสารประกอบสำคัญที่เรียกว่า เทารีน (Taurine ) และมีแร่ธาตุสังกะสี อยู่มากซึ่งสารสองตัวนี้จะทำงานร่วมกัน และมีผลต่อการส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศได้อย่างดี
นอกจากนี้ในอาหารทะเลทุกชนิด จะมี สารไอโอดีนสูงช่วยให้ไม่เป็นโรคคอหอยพอก และยังมี โอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันอิ่มตัวอยู่สูง มีผลช่วยลดโคเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ ป้องกันการเลือดจับตัวเป็นก้อนซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะหัวใจล้มเหลว และยังช่วยพัฒนาสมองและพัฒนาระบบประสาท ก่อให้เกิดผลดีต่อการรักษาโรคความจำเสื่อมได้อีกด้วย อาหารทะเลมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ ใครที่เป็นโรคแพ้อาหารทะเลน่าเสียดายแย่เลยนะ


ได้เกร็ดความรู้กันไปแล้ว วันนี้มาทานอาหารทะเลที่ Myhome กันนะคะ อยากแนะนำเมนู ทะเลลวกจิ้มให้ได้ลองกัน เพราะถ้าสั่งเมนูนี้เราจะได้ทานอาหารทะเลหลายอย่างมากอาทิ เช่น ปลา, ปลาหมึก, กุ้ง และหอยแมลงภู่ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด ทานข้าวไปแล้วต้องอยากสั่งเพิ่มอีกแน่ๆ หรืออยากทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพสามารถมาทานได้ที่ร้านมายโฮมได้นะคะ รับรองว่าอาหารอร่อยทุกอย่าง สนใจหรือสบถามได้ที่ร้าน myhome ถนนแม่ชี ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โทรสอบถามหรือจองโต๊ะได้ที่ 087-330-0333,045-311333 เปิดบริการทุกวัน 11.00-22.00 น.

วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ผักบ้านๆ มีคุณประโยชน์มากมายที่หลายคนคาดไม่ถึง


พืชผักทางการเกษตรของประเทศไทย ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็สามารถหากินได้อย่าง สะดวกสบาย แต่เพื่อนๆ เคยรู้กันหรือไม่ ? ว่าพืชผักที่ปลูกหลังบ้าน หรือ ข้างริมรั้ว ของเรานั้น มันมีประโยชน์มากแค่ไหน ทำไมผักบ้างชนิดที่หาง่ายในบ้านเราถึงเป็นที่ต้องการสูงในต่างประเทศ


1. ชะพลู ผักบ้านๆ ที่หากินกันได้ทั่วไป ซึ่งมีสรรพคุณในเรื่อง ขับลม แก้อาการท้องอืด บำรุงธาตุ ขับเสมหะ สำหรับประโยชน์ของชะพูลในเรื่องสุขภาพ ได้แก่ ใบชะพลูมีเบต้าแคโรทีนในปริมาณมาก ซึ่งช่วยบำรุงและรักษาสายตา ช่วยในการมองเห็น ป้องกันโรคตาบอดตอนกลางคืน แก้โรคตาฟาง ช่วยในการขับถ่าย เนื่องจากมีเส้นใยในปริมาณมาก และใบชะพลูมีรสเผ็ดร้อน ช่วยทำให้เจริญอาหารมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ชะพลูยังมี วิตามินเอและธาตุแคลเซียมในปริมาณสูงเป็นพิเศษ มีธาตุเหล็ก ธาตุฟอสฟอรัส คลอโรฟิลล์ เส้นใยอีกด้วย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายแทบทั้งสิ้น


2. ผักปลัง เป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารหลากหลาย เช่น มีแคลเซียมและธาตุเหล็กสูง อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี และวิตามินซี นิยมใช้ยอดอ่อน ใบอ่อน และดอกอ่อน นำมาลวกหรือต้มให้สุก ใช้รับประทานร่วมกับน้ำพริก สำหรับคุณประโยชน์ที่ยอดอ่อน ใบอ่อน ดอกอ่อน ของผักปลัง มีสารเบตาแคโรทีนที่ช่วยบำรุงดวงตา และยังมีสารที่มีคุณสมบัติเป็นสารช่วยป้องกันมะเร็ง ทั้งต้นของผักปลังมีรสเย็น ช่วยขับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้อาการร้อนใน ทำให้เลือดเย็นขึ้น ช่วยแก้อาการท้องผูก ยอดอ่อนหรือใบยอดอ่อนสดจะมีเส้นใย ช่วยหล่อลื่นลำไส้ และเป็นยาระบายอ่อนๆ ที่เหมาะสำหรับเด็กและสตรีตั้งครรภ์ เมื่อนำมาต้มรับประทานเป็นอาหารจะช่วยแก้อาการท้องผูกได้


3. ย่านาง เป็นสมุนไพรเย็น มีคลอโรฟิลล์สดจากธรรมชาติ และยังมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายอีกมากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เบต้าแคโรทีนในปริมาณค่อนข้างสูง สำหรับสรรพคุณของย่าน่างมีหลากหาย ได้แก่ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก จึงช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วและความแก่ชราอย่างได้ผล ช่วยรักษาอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม คลื่นไส้ อาเจียนได้ รวมไปถึงช่วยรักษาอาการของโรคเบาหวาน ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้อีกด้วย


4. ผักกูด เป็นผักที่มีรสจืดอมหวานและกรอบ ยอดอ่อนและใบอ่อนนิยมนำมาบริโภค โดยนำมาปรุงเป็นอาหารได้อย่างหลากหลาย ด้วยการนำมายำ ผัด ทำเป็นแกงจืด แกงเลียง แกงส้ม แกงแคร่วมกับผักชนิดต่าง ๆ สำหรับสรรพคุณของผักกูดมีหลายอย่าง ได้แก่ ช่วยบำรุงโลหิต เนื่องจากผักกูดเป็นผักที่มีธาตุเหล็กมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ผักกูดเป็นผักที่มีเส้นใยอาหารสูงมาก จึงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างดี นอกจากนี้ในผักกูดอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและเบตาแคโรทีน การรับประทานผักกูดร่วมกับเนื้อสัตว์จะช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุต่างๆ ได้ดีขึ้น และยังช่วยบำรุงร่างกายให้มีสุขภาพดีอีกด้วย


5. ผักหวานบ้าน เป็นผักที่มีวิตามินเอมากเป็นพิเศษ ซึ่งวิตามินเอมีประโยชน์กับสายตา มีวิตามินเค ซึ่งมีประโยชน์ในเรื่องการช่วยให้เลือดแข็งตัวเมื่อมีบาดแผลแล้วเลือดออก ทำให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมสร้างเซลล์กระดูกและเนื้อเยื่อในไต นอกจากนี้ใบผักหวานยังมีสรรพคุณในการแก้บวม แก้หัด ส่วนรากมีสรรพคุณลดอาการบวม รวมไปถึงใช้เป็นยาบำรุงสุขภาพสำหรับสตรีหลังคลอดได้


งั้นมาลองเมนุนี้กันสิคะ แกงผักหวานใส่ไข่มดแดง เมนูพื้นบ้านที่มีสรรพคุณและประโยชน์มากมาย รวมถึงไขข่มดแดงที่มีโปรตีนสูง แกงผักหวานรสชาติหอมกลมกล่อม ซดแล้วโล่งคอ ทานกับข้าวสวยร้อนๆสะคะ อร่อยแน่นอน สนใจหรือสบถามได้ที่ร้าน myhome ถนนแม่ชี ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โทรสอบถามหรือจองโต๊ะได้ที่ 087-330-0333,045-311333 เปิดบริการทุกวัน 11.00-22.00 น.

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

อาหารที่ต้านมะเร็ง-เบาหวาน-หัวใจ-รอยเหี่ยวย่น


โรคภัยร้ายแรงเดี๋ยวนี้มาจากพฤติกรรมในการใช้ชีวิต และอาหารการกินของเราทั้งนั้น ดังนั้นหากอยากมีสุขภาพที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เริ่มต้นกันได้ง่ายๆ จากอาหารที่เราทานในชีวิตประจำวันนี่แหละค่ะ เราเลยอยากแนะนำอาหารที่มีประโยชน์ หาทานได้ง่าย ราคาไม่แพง และช่วยรักษารูปร่างด้วย สนใจขึ้นมาเลยใช่ไหมล่ะ เพราะอาหารเหล่านี้ไม่ได้มีดีแต่รสชาติ แต่ช่วยป้องกันโรคที่ใครๆ ก็ไม่อยากเป็นอย่างโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคหัวใจอีกด้วย

5 อาหารต้านมะเร็ง-เบาหวาน-หัวใจ


น้ำมะพร้าว – ผลไม้ที่ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น
นอกจากจะช่วยดับกระหายได้เป็นอย่างดีแล้ว น้ำมะพร้าวยังประกอบด้วยสารไซโตไคนินเป็นจำนวนมาก ไซโตไคนินเป็นกลุ่มฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมการเจริญเติบโต พัฒนาการ และความแก่ของร่างกายมนุษย์ การดื่มน้ำมะพร้าวจึงอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีส่วนช่วยรักษาความหนุ่มสาวไว้ได้


ฟักทอง มะละกอ แครอท – ผลไม้ต้านมะเร็ง ควบคุมน้ำหนัก ผิวเปล่งปลั่งสดใส
ผลการศึกษาของสถาบันมะเร็งแห่งชาติในสหรัฐอเมริการะบุว่า ผักผลไม้ที่มีสีเหลืองและส้ม เช่น ฟักทอง มะละกอ และแครอทนั้นอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ฟักทองยังประกอบไปด้วยวิตามินเอและแคโรทีนอยด์ ที่ช่วยบำรุงสายตาและทำให้การมองเห็นในที่ที่มีแสงน้อยดีขึ้น นอกจากนี้ฟักทองยังอุดมไปด้วยใยอาหารในปริมาณสูง ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น จึงเหมาะสำหรับคนที่กำลังควบคุมแคลอรี และแคโรทีนอยด์ยังช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวตึงกระชับอีกด้วย
แถมให้อีกนิดว่า “เมล็ดฟักทอง” เองก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพและร่างกายด้วยเช่นกัน ในเมล็ดฟักทองอุดมไปด้วยกรดอะมิโนทริปโตเฟนซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการช่วยสร้างเซโรโทนิน ซึ่งเป็นหนึ่งในสารที่ทำให้รู้สึกสดชื่นและมีอารมณ์ดี ลองทานเมล็ดฟักทองเป็นอาหารว่าง รับรองว่าคุณต้องรู้สึกมีความสุขมากขึ้นแน่นอน


ผักใบเขียว – ต้านมะเร็ง เบาหวาน ช่วยลดน้ำหนัก ขับถ่ายเป็นเลิศ
ผักใบเขียวประกอบไปด้วยใยอาหารในปริมาณสูง และช่วยรักษาระบบการย่อยอาหาร เช่น การทำความสะอาด และลดการอักเสบ นอกจากนี้ผักใบเขียวยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งและโรคเรื้อรังอื่นๆ ช่วยในการลดน้ำหนักและการรักษาน้ำหนักให้คงที่ ผักสีเขียวเข้ม เช่น พืชในตระกูลผักโขมอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก จากผลการศึกษาของกรมวิชาการเกษตรของสหรัฐอเมริกา พบว่าผักโขมที่ปรุงแล้วขนาด 1 ถ้วยตวงมีธาตุเหล็ก 1 มิลลิกรัมซึ่งมากกว่าตับวัวปริมาณ 85 กรัมเสียอีก ผักใบเขียวจึงเป็นอาหารที่บำรุงเลือดเป็นอย่างดี เลือดดี สุขภาพก็ดีไปด้วย จริงไหม?

รับประทานอาหารประเภทพืชผักผลไม้แบบนี้ให้เยอะๆ เข้าไว้นะคะ แต่ก็อย่าลืมทานเนื้อสัตว์ไม่ติดมันด้วยล่ะ จะได้ครบ 5 หมู่ ให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ พร้อมสู้โรคร้ายต่างๆ ได้ถูกเมื่อเชื่อขณะ ว่าแล้วเย็นนี้ก็จัดเลยนะ!


หรืออยากทานแต่ไม่อยากทำเองแวะทานทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ร้านมายโฮมกันดูสิคะ มีอาหารให้เลือกหลากหลายรายการแถมดีต่อสุขภาพทั้งนั้น สนใจหรือสบถามได้ที่ร้าน myhome ถนนแม่ชี ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โทรสอบถามหรือจองโต๊ะได้ที่ 087-330-0333,045-311333 เปิดบริการทุกวัน 11.00-22.00 น.